5/9/54

คำศัพท์ที่ควรรู้

คำศัพท์ที่ควรรู้
Financial Document (เอกสารทางการเงิน)
1. Bill of exchange (ตั๋วแลกเงิน)  คือ ตราสารการเงินระยะสั้น ที่บุคคลรายหนึ่งสั่งให้บุคคลอีกรายหนึ่ง จ่ายเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ในตั๋วแลกเงินนั้น ให้แก่บุคคลอีกรายหนึ่ง ในวันที่กำหนดบนหน้าตั๋วแลกเงินนั้น ตั๋วแลกเงินสามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้ในตลาดเงิน (money market) ส่วนใหญ่จะมีธนาคารหรือสถาบันการเงินค้ำประกัน หรือรับรอง หรือรับรางวัล หรือสลักหลังอย่างไม่มีเงื่อนไข ตั๋วเงินชนิดหนึ่งเป็นตราสารแสดงสิทธิในหนี้ มักใช้ในการซื้อขายสินค้าหรือกู้ยืมระยะสั้นจากธนาคาร โดยทั่วไปสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้
2.  Draft (ร่าง) คือตราสารทางการเงิน หรือ ตั๋วแลกเงินของธนาคาร ที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินเป็นผู้ออกและสั่งให้ธนาคารตัวแทน (Correspondent Bank) หรือสาขาของตนในต่างประเทศจ่ายเงินจำนวนหนึ่งตามที่ระบุในดราฟต์ ให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ที่มีชื่อระบุไว้บนดราฟต์
        ตั๋วแลกเงินหรือดราฟต์ (Bill of Exchange or Drafts) ในกรณีนี้ผู้ออกตั๋วเป็นผู้สั่งให้อีกบุคคลหนึ่งจ่ายให้แก่ตน หรือจ่ายให้แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งตามคำสั่ง โดยที่ตั๋วแลกเงินนั้นก็คือ หนังสือตราสารซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกว่าผู้สั่งจ่าย สั่งบุคคลหนึ่งซึ่งเรียกว่าผู้จ่ายให้ใช้เงินจำนวนหนึ่งแก่บุคคลหนึ่ง หรือให้ใช้ตามคำสั่งของบุคคลหนึ่งซึ่งเรียกว่าผู้รับเงิน ดังนั้น จะเห็นได้ว่าในกรณีตั๋วแลกเงินนั้นมีบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้องถึงสามฝ่ายด้วยกันคือ ผู้สั่งจ่าย (Drawer) ผู้รับคำสั่งให้จ่ายหรือผู้จ่าย (Drawee) และผู้รับเงิน (Payee ) แต่ในบางกรณีอาจจะมีเพียงสองฝ่ายก็ได้ คือ ผู้สั่งจ่ายและผู้รับเงินเป็นบุคคลเดียวกัน
        ตั๋วแลกเงินแบ่งออกได้เป็นสองประเภท คือ ตั๋วแลกเงินภายในประเทศ และตั๋วแลกเงินต่างประเทศ สำหรับตั๋วแลกเงินต่างประเทศ ตั๋วแลกเงินจะบังคับได้ในกรณีผู้ถูกสั่งให้จ่ายหรือผู้จ่ายต้องได้มีการรับรองการจ่ายเงิน (Accepted) บนหนังสือตราสารนั้น
        ตั๋วแลกเงินสามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
         (1) แยกตามลักษณะของผู้จ่ายเงิน (Drawee) ในกรณีที่สั่งให้ธนาคารเป็นผู้จ่ายเรียกว่า ตั๋วแลกเงินธนาคาร (Bank Draft หรือ Sight Bill) ตั๋วแลกเงินที่มีกำหนดเวลา (Time Bill) คือ ตั๋วแลกเงินที่มีการตกลงร่วมกันระหว่างผู้จ่ายและผู้รับ ว่าจะมีการชำระหรือเบิกถอนหลังจากผู้รับได้รับตั๋วแลกเงินแล้วเป็นเวลากี่วัน
         (2) เช็ค (Cheque) ก็เป็นตั๋วแลกเงินลักษณะหนึ่ง แต่ผู้จ่ายเงินเป็นธุรกิจของสถาบันการเงินรูปหนึ่งที่เรียกว่า ธนาคาร ซึ่งเช็คก็คือหนังสือตราสารซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกว่าผู้สั่งจ่าย สั่งธนาคารให้ใช้เงินจำนวนหนึ่งเมื่อทวงถามให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง หรือให้ใช้ตามคำสั่งของบุคคลอีกคนหนึ่งอันเรียกว่าผู้รับเงิน
3.  Cheque (เช็ค) คือ  เช็ค หมายถึง หนังสือตราสารซึ่งบุคคลหนึ่ง (ที่เป็นลูกหนี้ของผู้ที่จะรับชำระหนี้ด้วยเช็ค) ซึ่งเรียกว่า ผู้สั่งจ่าย สั่งให้ธนาคารซึ่งตนมีบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน ให้ใช้เงินจำนวนหนึ่งให ้แก่บุคคลที่เป็นเจ้าหนี้ ของตนซึ่งเรียกว่า ผู้รับเงิน และสัญญาว่าตนจะใช้เงินจำนวนนั้นให้ด้วย ตนเองหากธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อมีการนำเช็คไปเรียกเก็บจากธนาคารโดยชอบ ตัวอย่าง นายดำซื้อบ้านหลังหนึ่งจากนายแดง ราคา ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท และตกลงกันว่าให้ชำระหนี้ด้วยเช็ค นายดำจึงเขียนเช็คของธนาคารกรุงธน สำนักงานใหญ่ ซึ่งตนมีบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน สั่งให้ธนาคารจ่ายเงิน ให้แก่นายแดงจำนวน ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท และมอบเช็คนั้นให้นายแดงไป ดังนี้นายแดงสามารถนำเช็คฉบับดังกล่าวไปเรียกเก็บเงินจากธนาคารกรุงธน ได้
ประเภทของเช็ค
        ตามกฎหมายเช็คมี ๒ ประเภท คือ เช็คระบุชื่อและเช็คผู้ถือ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
        เช็คระบุชื่อ คือ เช็คที่ผู้สั่งจ่ายออกโดยสั่งธนาคารให้จ่ายเงินโดยระบุชื่อผู้รับเงิน หรือให้ใช้ตามคำสั่งของบุคคลนั้น
        ตัวอย่าง
        นายดำเขียนเช็คสั่งจ่ายธนาคารกรุงธนให้จ่ายเงินให้แก่นายแดงจำนวน ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท เช็คฉบับนี้เป็นเช็คระบุชื่อ
เช็คผู้ถือ คือ เช็คที่ผู้สั่งจ่ายออกโดยสั่งธนาคารให้จ่ายเงินแก่ผู้ถือ หรือจ่ายตามคำสั่งของผู้ถือ หรือระบุชื่อผู้รับเงินและมีคำว่า หรือผู้ถือรวมอยู่ด้วย
 ตัวอย่าง
        นายดำเขียนเช็คสั่งธนาคารกรุงธนให้จ่ายเงินให้แก่ผู้ถือ จำนวน ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท หรือจ่ายเงินให้แก่นายแดงหรือผู้ถือ จำนวน ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท เช็คฉบับนี้เป็นเช็คผู้ถือ
รายการในเช็ค
        หนังสือตราสารที่จะเป็นเช็คตามกฎหมายนั้นจะต้องระบุรายการต่างๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ซึ่งทางปฏิบัติก็จะเป็นกระดาษเช็คที่ธนาคารมอบให้กับผู้ที่มีเงินฝากในบัญชีกระแสรายวัน กับธนาคาร โดยจะ มอบให้เป็นสมุดเช็คเพื่อใช้ในการเบิกถอนเงินฝากจากธนาคาร และในกระดาษเช็คก็จะเป็นแบบพิมพ์ของธนาคารที่มีรายการต่างๆ ที่จะให้ผู้ออก เช็คเขียนหรือพิมพ์ลงไป ได้ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
        ๑) คำบอกชื่อว่าเป็นเช็ค
        ๒) คำสั่งซึ่งให้ใช้เงินเป็นจำนวนแน่นอนโดยไม่มีเงื่อนไขในการใช้เงิน
        ๓) ชื่อหรือยี่ห้อและสำนักของธนาคาร
        ๔) ชื่อหรือยี่ห้อของผู้รับเงิน หรือคำจดแจ้งว่าให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ
        ๕) สถานที่ใช้เงิน
        ๖) วัน เดือน ปี และสถานที่ที่ออกเช็ค
        ๗) ลายมือชื่อ (ลายเซ็น) ของผู้สั่งจ่าย
4. Bill of Collection(บิลจากคอนเลกชัน) คือ  การเรียกเก็บเงินตามตราสารเพื่อลูกค้า หรือ เป็นเครื่องมือการชำระเงินที่ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกันว่าเมื่อผู้ขายส่งสินค้าเรียบร้อยแล้ว ผู้ขายจะจัดทำและส่งเอกสารไปเรียกเก็บเงินยังผู้ซื้อโดยผ่านธนาคารของผู้ซื้อ ซึ่งเรียกเครื่องมือการชำระเงินนี้ว่า Bill for Collection (B/C) โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ Documents Against Payment (D/P) และ Documents Against Acceptance (D/A) ธนาคารจะเป็นตัวกลางในการเรียกเก็บเงินเท่านั้น จะไม่มีภาระผูกพันเกี่ยวกับการชำระเงินแทนผู้ซื้อ ซึ่งธนาคารสามารถให้บริการแก่ผู้นำเข้าได้
5. Bondsพันธบัตร หรือ หุ้นกู้
หุ้นกู้ คือ ตั๋วสัญญาใช้เงินระยะยาวประเภทหนึ่งที่ออกโดยผู้กู้ ซึ่งระบุว่าผู้กู้ ได้กู้ยืมเงินจำนวนหนึ่งจากผู้ซื้อ หรือผู้ถือหุ้นกู้โดยผู้กู้สัญญาว่าจะจ่ายคืนเงินจำนวนดังกล่าวในอนาคต และจ่ายดอกเบี้ยเป็นรายงวดตามวันที่กำหนดไว้ตลอดอายุหุ้นกู้ ผู้ถือหุ้นกู้จะมีสภาพเป็นเจ้าหนี้ของบริษัทที่ออกหุ้นกู้นั้น
หุ้นกู้ที่ออกจำหน่ายจะต้องระบุข้อมูล ดังนี้
1. ระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอน หรืออายุหุ้นกู้
2. มูลค่าที่ตราไว้ หรือ มูลค่าเมื่อครบกำหนดไถ่ถอน ซึ่งเป็นเงินต้นที่ผู้กู้ต้องชำระคืน ณ วันครบกำหนดไถ่ถอน โดยปกติจะเท่ากับ 1,000 บาท
3. อัตราดอกเบี้ย ที่ระบุไว้บนใบหุ้นกู้ ซึ่งแสดงถึงร้อยละของมูลค่าที่ตราไว้ โดยมักจะจ่ายเป็นรายปีหรื
พันธบัตร คือ เป็นสัญญาที่ออกโดยผู้ขอกู้ยืม โดยจะมีสัญญาข้อผูกมัดที่ว่า ผู้ออกพันธบัตร (หรือผู้ขอกู้ยืม) จะต้องจ่ายผลตอบแทน (ดอกเบี้ย) ให้กับผู้ถือพันธบัตร (ผู้ให้กู้) ตามอัตราและระยะเวลาที่กำหนดไว้ในพันธบัตร
พันธบัตรที่ไม่ระบุดอกเบี้ย (Zero Coupon Bond) : คือพันธบัตรที่ไม่มีการจ่ายผลตอบแทน หรือดอกเบี้ยให้กับผู้ถือเป็นงวดๆ หากแต่จะจ่ายในรูปของภารรับซื้อคืนในราคาที่สูงขึ้น จากราคาที่ผู้ออกขายให้ผู้ถือในตอนแรก ณ วันครบกำหนดไถ่ถอน
พันธบัตรที่ระบุดอกเบี้ย (Coupon Bond) : คือพันธบัตรที่มีสัญญาข้อผูกมัดที่ว่า ผู้ออกพันธบัตรจะต้องจ่ายผลตอบแทน (ดอกเบี้ย) ให้กับผู้ถือพันธบัตรตามอัตราและ ระยะเวลาที่กำหนดไว้ในพันธบัตร และรับซื้อพันธบัตรคืนที่ราคาหน้าตั๋วที่วันครบกำหนดอายุไถ่ถอน
พันธบัตรที่มีการจ่ายดอกเบี้ยในแบบอัตราดอกเบี้ยลอยตัว (Floating rate bond) : คือพันธบัตรที่ลดอัตราเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยของผู้ถือพันธบัตรให้ต่ำที่สุด โดยอัตราดอกเบี้ยที่ผู้ออกพันธบัตรจะจ่ายให้กับผู้ถือนั้น จะเป็นอัตราที่สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยของตลาดขณะนั้น
พันธบัตรที่สามารถเรียกคืนได้ (Collable bond) : คือ พันธบัตรที่ผู้ออกสามารถขอซื้อคืนตามราคาที่กำหนดไว้ก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน
6.  Stock (สต็อก) คือ หุ้นทุนคลังสินค้า, พัสดุ, สินค้าในร้าน, สต๊อค, ของสะสม, จำนวนที่สะสมไว้,ก้าน, ด้าม, โคนต้น, ลำต้น, ตอไม้, เขียงไม้, ฐาน, ก้านสมอเรือ,ปศุสัตว์, บริษัทหุ้นส่วน, หลักทรัพย์ของบริษัท, พันธบัตร, ไม้ค้ำเรือ,แท่นต่อเรือ, ไม้หมอนใต้ท้องเรือ, พืชพันธ์, เชื้อสาย adj. มีอยู่ในร้าน
Transport Document(เอกสารการขนส่ง)
1. Bill of Ladingใบตราสินค้า
·         เป็นตราสารที่ผู้รับขนสินค้าออกให้แก่ผู้ส่งสินค้า เพื่อแสดงว่าได้มีการรับสินค้าเพื่อนำส่งไปยังจุดหมายปลายทางที่ผู้ส่งสินค้ากำหนด ใบตราส่งสินค้ามีหลายชนิด เช่น
·         ใบตราส่งสินค้าทางทะเลเรียกว่า Ocean Bill of Lading ซึ่งมีลักษณะปลีกย่อยดังนี้ ใช้กับการขนส่งรวมรูปแบบต่อเนื่องหลายวิธีเข้าไว้ด้วยกัน เรียกว่า Multimodal Transport Document หรือ Combine Transportation Bill of Lading
·         ใช้ในการขนส่งที่ผู้รับสินค้าไม่ต้องนำต้นฉบับใบตราส่งไปขอรับสินค้า ซึ่งในทางปฏิบัติผู้รับสินค้าสามารถใช้สำเนาใบตราส่งไปขอรับใบสั่งปล่อยจากตัวแทนเรือได้ เรียกว่า Seaway Bill หรือ Express Bill ใบตราส่งประเภทนี้ผู้รับตราส่งจะต้องเป็นผู้นำเข้าโดยตรง และความรับผิดชอบของผู้รับขนส่งมีน้อยกว่าใบตราส่งประเภทอื่น
·         ใบตราส่งสินค้าทางอากาศเรียกว่า Air Way Bill
·         ใบตราส่งสินค้าทางรถไฟ เรียกว่า Railway Bill
ใบตราส่งสินค้าที่สำคัญได้แก่
ใบตราส่งสินค้าทางเรือ (Bill of Lading)
ใบตราส่งสินค้าทางเรือเป็นเอกสารที่มีคุณลักษณะ 3 ประการ คือ
·         เป็นใบรับสินค้าที่ออกให้โดยสายเดินเรือหรือตัวแทนสายเดินเรือ ที่มีรายละเอียดของสินค้าที่จะทำการขนส่ง
·         เป็นสัญญาการขนส่งระหว่างผู้ส่งสินค้ากับผู้รับขนส่งสินค้า ว่าผู้รับขนส่งจะส่งสินค้าไปยังเมืองท่าปลายทางและจะส่งมอบให้แก่ผู้รับที่ผู้ส่งสินค้าได้ระบุไว้
·         เป็นเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในสินค้าที่ขนส่งที่เปลี่ยนมือได้ (Negotiable) ของผู้ทรงสิทธิ์ ซึ่งผู้ทรงสิทธิ์จะใช้ในการขอรับสินค้าที่ท่าเรือปลายทาง หรือจะใช้ในการขายต่อสินค้าให้กับผู้รับซื้อช่วงในระหว่างการขนส่งก็ได้
หรือ ใบเบิก(B / L)
                เอกสาร ที่ออกโดย ผู้ให้บริการ หรือของ ตัวแทน เพื่อ ส่ง เป็น สัญญาของการขนส่ง ของ สินค้า . นอกจากนี้ยังเป็น ใบเสร็จรับเงิน สำหรับ การขนส่งสินค้า ได้รับการยอมรับสำหรับ การขนส่ง และจะต้องนำเสนอสำหรับการ ส่งมอบ ที่ปลายทาง
2. Airway Bill (ใบตราสินค้าทางอากาศ) คือ เป็นเอกสารกำกับสินค้าโดยมีหลักฐานในการขนส่งสินค้าที่ทำขึ้นในลักษณะของสัญญา การขนส่งสินค้าระหว่างผู้ส่งออกกับผู้ทำการขนส่งโดยมีผู้รับสินค้าเป็นบุคคลที่สามที่ทำให้สัญญาการขนส่งสมบูรณ์ สัญญานี้จะครอบคลุมตั้งแต่จุดรับมอบสินค้า
ณ สนามบินต้นทางจนถึงจุดส่งมอบสินค้าปลายทางของสินค้าทุกประเภท
เอกสารขนส่งทางอากาศ (AIR WAYBILL)
หมายถึง หลักฐานการส่งสินค้าทางอากาศ เพื่อจัดส่งสินค้าจากท่าอากาศยานของผู้ผลิตไปส่งมอบให้ท่าอากาศยานผู้บริโภค
เอกสารขนส่งทางอากาศ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
1.MASTER AIR WAYBILL คือ เอกสารการส่งสินค้าทางอากาศที่ออกโดยผู้ประกอบการขนส่ง ซึ่งเป็นตัวแทนรับผิดชอบต่อความเสี่ยงภัยของสินค้าระหว่างการขนส่ง
2.HOUSE AIR WAYBILL คือ เอกสารการขนส่งสินค้าทางอากาศที่ออกโดยบริษัทนายหน้าขาย FREIGHT ที่รวมสินค้าของผู้ประกอบการหลายรายไว้ด้วยกัน แต่มีเพียง MASTER AIR WAYBILL 1 ฉบับ คลุมการขนส่งเท่านั้น
3. Railway Bill (ใบตราส่งสินค้าทางรถไฟ) คือ ใบเบิก สำหรับ สินค้า ที่จัดส่งโดยทางรถไฟ เป็นใบรับออกโดยการรถไฟหรือตัวแทน (Agent) และมีลายเซ็นของผู้ทำการขนส่ง และตัวแทนลงนามประทับตราและวันที่ออก 
4. Roadway Bill (ใบตราส่งสินค้าทางถนน)                 
 5. Certificate of Posting ใบรับรองการโพสต
6.  CMR ย่อมาจาก Customer Relationship Management 
      หรือเรียกว่าการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งก็คือการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยการใช้เทคโนโลยีและการใช้บุคลากรอย่างมีหลักการ CRM ได้ถูกนำมาใช้มากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องมาจากจำนวนคู่แข่งของธุรกิจแต่ละประเภทเพิ่มขึ้นสูงมาก  การแข่งขันรุนแรงขึ้นในขณะที่จำนวนลูกค้ายังคงเท่าเดิม ธุรกิจจึงต้องพยายามสรรหาวิธีที่จะสร้างความพอใจให้แก่ลูกค้าอันจะนำไปสู่ความจงรักภักดีในที่สุด
7.  TIR
Commercial Document(เอกสารพานิชย์)
1. invoiceใบกำกับสินค้า คือ บัญชีราคาสินค้าหรือใบกำกับราคาสินค้า เป็นเอกสารที่ผู้ส่งสินค้า (Exporter) จัดขึ้น เพื่อแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้า เช่น รายการจำนวนสินค้า, น้ำหนัก ราคาต่อหน่วย ราคารวม ประเภทของราคา ที่จะทำการซื้อขายกัน เครื่องหมายหีบห่อ ชื่อเรือที่ทำการขนส่ง ชื่อผู้ซื้อ เป็นต้น แต่ละบริษัทผู้ขายสินค้า (Exporter) จะมี Form ในการออก Invoice ของตนเอง และส่งไปพร้อมกับสินค้า พร้อมทั้งส่งมอบให้ผู้ซื้อ (Importer) เป็นหลักฐานในการตรวจสอบสินค้า
2. packing list รายการบรรจุ ใบแสดงการบรรจุหีบห่อ เป็นรายการในการบรรจุหีบห่อ แสดงถึงการบรรจุของในแต่ละหีบห่อว่าได้บรรจุสินค้าแบบใด จำนวนเท่าใด
3. weight list รายการน้ำหนัก ใบแสดงรายการน้ำหนักสินค้า แสดงถึงน้ำหนักและขนาดด้วย ถ้าหากไม่แจ้งขนาดและน้ำหนักจะมีเอกสารที่แยกออกไป
4. certificate of origin หนังสือรับรองแหล่งกำเนิดเป็นใบรับรองต้นกำเนิดสินค้า ว่าสินค้านั้นๆ มีกำเนิดในประเทศใด ตามปกติแล้วจะนิยมให้สภาการค้า (Chamber of Commerce) ของประเทศผู้ส่งสินค้าเป็นผู้ออกให้ วัตถุประสงค์ในการใช้เอกสารนี้ ก็โดยเหตุที่บางประเทศเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากสินค้าที่ผลิตในประเทศที่มีสนธิสัญญาในเรื่องภาษีต่อกันต่ำกว่าสินค้าจากประเทศอื่น หรือห้ามสินค้าจากประเทศใดประเทศหนึ่งเข้าประเทศของตน
5. health certificate  ใบรับรองสุขภาพหรือใบสำคัญแสดงความสมบูรณ์ของสินค้า คือ เป็นเอกสารที่แสดงถึงความสมบูรณ์ของสินค้า สินค้าบางชนิดจำเป็นต้องใช้โดยเฉพาะสินค้าทางการเกษตร ซึ่งต้องการคำรับรองว่า มีความสมบูรณ์ปราศจากโรครบกวน
6. inspection certificate การตรวจสอบใบรับรอง
7. insurance certificateใบรับรองการประกันคือ หลักฐานที่ผู้รับประกันภัยออกให้แก่ผู้ประกันภัยในแต่ละครั้งที่มีการขนส่งสินค้า
8. phytosanitary certificate ใบรับรองสุขอนมัยพืช
9. fumigation certificateใบรับรองรมควัน
10. certificate of analysisใบรับรองการวิเคราะห์ เป็นเอกสารแสดงการวิเคราะห์ว่าสินค้านั้นๆ มีส่วนผสมอะไรบ้าง และมีสัดส่วนอย่าไร ซึ่งผู้ซื้อ (Importer) จะได้ทราบว่า สินค้ามีส่วนผสมตามความตกลง
11. sanitary certificateใบรับรองสุขอนามัย
                   หรือ certificate of sanitary หนังสือรับรองการสุขาภิบาล
12.  Entreport Certificates     ใบรับรอง Entreport
13.  Shipping Line Certificates            ใบรับรองสายการจัดส่งสินค้า
14.  Measurement Certificates             ใบรับรองการวัด

อ้างอิง
http://www.panyathai.or.th.
http://www.en.wikipedia.orgl






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น